วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

สัมผัสอย่ายอมให้สมาชิกชั่วลอยนวลเด็ดเดี่ยว ฟุตบอลแมนยู

ต้องอย่า ให้เสรีภาพให้คนชั่วลอยนวลเด็ดขาด!!




ก็ต้องขอแจ้งให้ทราบว่า ปลดเปลื้องคนชั่วสิบคนดี ดีกว่าจับคนบริสุทธิ์เท่าคนเดียว!!! นั้นเป็นวลีที่นึกขึ้นได้ครั้นเมื่อวันก่อนภายหลังดูการถ่ายทอดสด ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกระหว่าง กรุ๊ปปิศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด กับ คณะแมวดำ ซันเดอร์แลนด์

ซึ่งผลการแข่งขันเป็นไปตามคาดลูกคณะของ หลุยส์ ฟาน ฮัล เอาตัวรอดด้วยชัยชนะผลฟุตบอล 2-0

แต่ว่าในจังหวะที่หมายพูดถึงคงหนีไม่พ้น การที่ เวส บราวน์ อดีตศิษย์เก่าสำนักโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกผู้ตัดสิน โรเจอร์ อีสต์ ให้ใบแดงไล่ออกจากสนาม

ซึ่งถ้าพี่น้ำตาลทำฟาวล์เหรอกระทำผิดสุทธิๆ ในจังหวะที่ไปเหนี่ยว ศูนย์หน้าตีนบอด อย่าง ราดาเมล ฟัลเกา ก็คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ผู้กระทำผิด ที่แท้แท้ ในจังหวะนั้น ดันเป็นเพื่อนร่วมอดีตสำนักเดียวกันอย่าง จอห์น โอเช ที่เป็นคนไปเหนี่ยวศูนย์หน้าชาวโคลอมเบีย

แต่ว่าที่สำคัญ ในจังหวะที่เหนี่ยวไม่ใช่แค่จับแล้ว ปลดปล่อย แต่เป็นการเหนี่ยวแล้วยังดึงรั้งตัว ฟัลเกา ที่กำลังจะพลิกบอลเข้าไปยิงประตูถึง 2 จังหวะ 2 ครั้ง ด้วยกัน

พร้อมด้วยในขณะที่พี่น้ำตาลผู้โชคร้ายดันไปอยู่แถวนั้นพอดี เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น ยังไงก็เป็นจุดโทษ แต่กรรมการเจ้ากรรมดันไปให้ใบแดงพี่น้ำตาลแทนที่จะเป็นโอเช

ซึ่งครั้นพี่น้ำตาลถูกกล่าวหาพยายามจักอธิบายให้ผู้ตัดสินเข้าใจว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดก็ไม่เป็นผล จึงต้องตกอยู่ในสถานะ ถูกจับแพะ แบบไม่มีทางเโจษก




เพราะที่แสบไปกว่านั้นคือ ผู้กระทำผิดที่แท้แน่นอนอย่างโอเชดันเดินไปให้กำลังใจตบหลังพี่น้ำตาลตอนที่เดินออกจากสนาม เชื่อว่าในใจของ แพะ อย่างพี่น้ำตาลคงอาจจะคิดลึกๆ เผาพริกเผาเกร่ำลือให้เพื่อนร่วมคณะที่ลอยนวล

ซึ่งแทนที่จักช่วยเข้ามายืนยันว่าตัวเองทำผิดพร้อมด้วยยอมเดินออกจากสนาม ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า โชคร้ายมากๆ ในแง่ความรู้สึก แม้ว่าใครจักถูกไล่ออกกรุ๊ปก็คงพ่ายเหมือนกัน ก็เพราะว่าทั้ง บราวน์ พร้อมกับ โอเช ไม่ได้มีใครเล่นดีกว่ากันซักเท่าไหร่

แม้จักว่าไปก็คล้ายๆ กับเหตุการณ์จนกระทั่งอาทิตย์ที่แล้วในเกมระหว่าง กรุ๊ปสิงห์บลู เชลซี กับ หมู่เบิร์นลี่ย์ ในจังหวะที่ เนมันย่า มาติช ถูกไล่ออกหลังจากวิ่งไปผลัก แอชลี่ย์ บาร์นส์

ในที่จังหวะก่อนหน้านั้น เจ้าบาร์นส์ตัวแสบนี่แหละดันเข้าวิเคราะห์บอลเปิดปุ่มแบบน่าเกลียดใส่มิดฟิลด์ของ กลุ่มเชลซี

และที่สำคัญกรรมการเจ้ากรรม อีกแล้ว อย่าง มาร์ติน แอตกินสัน ที่มากประสบการณ์ดันไม่เห็น หรือเปล่า ในจังหวะนั้น จึงไม่ได้เป่าฟาวล์หยุดเกมแต่อย่างใด

ซึ่งยิ่งๆ ขอแนะนำใครที่มีเวลาลองหาเทปหรือว่าคลิปย้อนดูในจังหวะนั้นอีกรอบ จะรู้ว่าเจ้าบาร์นส์ตัวแสบนี่แหละสมควรโดนไล่ออกจากสนามในฐานะผู้กระทำผิดที่แท้สุทธิ




และเหตุผลที่ มาติช เองนั้นก็ดูแลอารมณ์ไม่อยู่ แท้ๆ จังหวะนั้นถ้าใครคุมอยู่ก็คงต้องชาบู บูชา ก็ต้องรับกรรมไป ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็น เหยื่อ ก่อนแท้ๆ ขณะที่ผู้ร้ายลอยนวล!!!

ซึ่งในเหตุการณ์นั้นต้องยอมรับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเกมคู่นี้ ก็เพราะว่าเชลซีที่เหเลื่องลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า ถูกตีเสมอ จบเกมจากสามแต้มที่ควรได้เหร่ำลือพ่างแต้มเดียว

ด้วยกันนี่แหละคือเกมฟุตบอลที่ Human Error อาจจะเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้แฟนบอลทั้งหลายบางคน

แต่ว่าเพราะว่าผู้ถูกกระทำอย่าง เวส บราวน์ พร้อมทั้ง เนมันย่า มาติช คงขำไม่ออก พร้อมกับเจ็บปวดพอสมควรกับโลกของฟุตบอลที่บางทีความยุติธรรมก็ไม่ใช่สิ่งที่จักหาได้ง่ายๆ ครับ

ที่มา:http://sport.sanook.com/136273/

ติดตามชมอ่าน ข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล โปรแกรมบอล โปรแกรมพรีเมียร์ลีก ตารางบอล ได้ที่ http://event.sanook.com/football

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น